ข้าวตราไก่แจ้ ธุรกิจไทยแท้ ยอดขายพันล้าน

ใครจะเชื่อว่าในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคืองและราคาข้าวตกต่ำอย่างตอนนี้จะทำให้ข้าวสารแบรนด์ไทยอย่าง ‘ข้าวตราไก่แจ้’ มียอดขายสูงถึงหลักพันล้าน ‘รอบรู้ธุรกิจ’ ฉบับนี้ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ จำกัด ทายาทผู้สานต่อธุรกิจให้เติบโตด้วยกลยุทธ์เรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา

คุณธีรินทร์บอกกับเราว่าบริษัทของเขาเป็นธุรกิจครอบครัว พ่อของเขา (สุนทร ธัญญวัฒนกุล) เป็นคนก่อตั้งกิจการ ทำการผลิต จำหน่าย และคัดสรรข้าวสารบรรจุถุงในจังหวัดชลบุรี มายาวนานกว่า 60 ปี โดยใช้ชื่อว่า ‘ไก่แจ้’ คำง่าย ๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการชอบเลี้ยงไก่ของพ่อ

คุณธีรินทร์เล่าให้ฟังว่า หลังจากเรียนจบปริญญาโทจากสหรัฐอเมริกา เขาก็กลับมาทำงานประจำในประเทศไทยตามความต้องการของพ่อกับแม่ แต่ไม่นานเขาก็ลาออกเพื่อกลับมาสานต่อธุรกิจของครอบครัว “ผมต้องเรียนรู้งานใหม่ในหลาย ๆ ส่วนครับ ได้เป็นทั้งเด็กขนข้าว คนขับรถส่งของ แล้วก็พนักงานขาย ช่วงนั้นเหนื่อยมากครับ แต่ผมคิดว่าเหนื่อยทั้งทีธุรกิจเราต้องเติบโต ไม่ใช่เหนื่อยแล้วไม่ได้อะไรเลย”

การเป็นคนช่างสังเกต เปิดรับความรู้ใหม่ตลอดเวลาเหมือนน้ำไม่เต็มแก้ว ทำให้เขามองเห็นถึงข้อดีในการประยุกต์ใช้สิ่งต่าง ๆ ในโรงงาน เริ่มจากการนำสิ่งของที่มีอยู่แล้วมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ยกตัวอย่างเช่น การซ่อมแซมรถคันเก่าเพื่อนำมาใช้ในการส่งข้าว จากเดิมที่มีรถใช้งานได้ 1 คัน ก็เพิ่มเป็น 2 คัน รวมทั้งการปรับปรุงเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยไม่ต้องซื้อใหม่ โดยมีแนวคิดในการบริหารกิจการคือจะนำสิ่งของที่มีอยู่มาทำประโยชน์ให้มากที่สุด

หลังจากเรียนรู้งานได้สักพัก คุณธีรินทร์ก็เริ่มเดินหน้าสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดในแบบของตัวเอง “อย่างแรกเลยคือผมเข้าไปพูดคุยกับลูกค้า ถามความคิดเห็นว่าเขาต้องการอะไร ไม่ต้องการอะไร ซึ่งผมจะได้ข้อมูลเหล่านั้นเวลาขับรถไปส่งของนั่นแหละครับ” (ยิ้ม) ส่วนเรื่องแบรนด์ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ คุณธีรินทร์บอกว่า ชื่อ ‘ข้าวตราไก่แจ้’ แม้จะเป็นคำพื้น ๆ แต่ก็แสดงถึงความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี ง่ายต่อการจดจำ ทำให้เป็นที่รู้จักและติดหูลูกค้าได้ง่าย และพยายามสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งด้วยการตลาดแบบบ้าน ๆ แต่โดนใจ โดยเริ่มจากการจ้างรถแห่ประกาศอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปี ออกบูธหุงข้าวให้ชิมอย่างต่อเนื่อง ทำโปรโมชั่นลด แจก แถม ชิงรางวัลมากมาย และล่าสุดเปิดตัวหนังโฆษณาใหม่ในคอนเช็ปต์ ‘ได้อั้ม… แล้วจะติดใจ’ ข้าวตราไก่แจ้ ข้าวดีดี ที่คุณต้องลอง เพราะเชื่อว่าการตลาดต้องทำอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ และมากขึ้นเรื่อย ๆ

หลังจากที่คุณธีรินทร์เข้ามาดูแลกิจการ และสร้างยอดขายข้าวตราไก่แจ้จนเติบโต มียอดขายมากกว่า 2,000 ล้านบาท ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงเล็งเห็นช่องทางการเติบโตของธุรกิจครอบครัว จึงแตกไลน์ธุรกิจไปสู่ขนมไทยแบรนด์ ‘แม่นภา’ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ทีอาร์ ไทยฟู้ดส์ จำกัด ด้วยแนวคิด ‘ให้ขนมไทยเป็นขนมโลก’ โดยเป็นสูตรขนมไทยจากคุณแม่นภา ซึ่งเป็นคุณแม่ของคุณธีรินทร์ รสชาติอร่อยเหมาะกับผู้บริโภคทุกวัย ใส่ใจในทุกกระบวนการผลิต เพื่อยกระดับขนมไทยให้สะอาด อร่อย และหาซื้อได้ง่าย มีทั้งกล้วยเบรคแตก เผือกเบคแตก มันเบรคแตก และข้าวต้มมัด โดยทุ่มงบลงทุนก่อสร้างโรงงานและเครื่องจักรไปกว่า 20 ล้านบาท

คุณธีรินทร์อธิบายให้ฟังว่าจุดเด่นของขนมแม่นภา อยู่ที่ส่วนผสมของขนมและวัตถุดิบทุกชนิดไม่มีส่วนประกอบของผงชูรส ไม่ใส่สารกันบูดเพื่อยืดอายุของอาหาร “ผมต้องการนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งก็มีเงื่อนไขว่าขนมของเราต้องสามารถเก็บได้นาน 6 เดือน แต่ผมไม่มีประสบการณ์ด้านการถนอมอาหารเลย ต้องลองผิดลองถูกอยู่ประมาณ 2 ปี ถึงจะค้นพบกรรมวิธีที่ตอบโจทย์ ทำให้ ‘ข้าวต้มมัดแม่นภา’ สามารถเก็บได้นาน 6 เดือนโดยไม่ใส่สารกันบูด ทั้ง ๆ ที่ ปกติแล้ว ข้าวต้มมัดจะเก็บไว้ได้เพียง 1 – 2 วันเท่านั้น ถ้าผมถอดใจยอมแพ้คงไม่มีขนมไทยแม่นภาออกมาให้ทุกคนเห็นในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นครับ”

ด้วยกลยุทธ์และระบบการบริหารแบบบ้าน ๆ ประกอบกับความเชื่อมั่นและทุ่มเท ทำให้ข้าวตราไก่แจ้และขนมแม่นภาวางจำหน่ายทั่วประเทศ และส่งออกไปต่างประเทศอีกกว่า 20 ประเทศ จนมียอดขายรวมกันกว่า 2,000 ล้านบาทในปัจจุบัน และยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจของตัวเองต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

จากการตั้งเป้าหมายในการทำงาน เสริมด้วยความอดทนและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ทำให้ในวันนี้ ธุรกิจ ‘ข้าวตราไก่แจ้’ และ ‘ขนมแม่นภา’ ประสบความสำเร็จอยู่ในใจคนไทยและก้าวไปสู่ตลาดสากลอย่างยั่งยืน